จากอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ กรณีรถเบนซ์ ซีแอลเอส สีดำ ทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพ ซิ่งชนเก๋งฟอร์ด เฟียสต้า สีเทาดำ ทะเบียน ฆย 6911 กรุงเทพ จนไฟลุกท่วมย่างสด โดยผู้เสียชีวิตคือนายกฤษณะ หรือโต้ง ถาวร อายุ 32 ปี กับน.ส.ธันฐภัทร์ หรือเบนซ์ ฮ้อแสงชัย ซึ่งทั้งคู่เป็นนิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถูกไฟคลอกคาซากรถ เหตุเกิดบนถนนพหลโยธินขาออกช่วงหลักกิโลเมตรที่ 52-53 ใต้ต่างระดับบางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาวันที่ 14 มี.ค. ทางมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้โพสต์แสดงความไว้อาลัยแก่นายกฤษณะ ถาวร นิสิตปริญญาโท สาขาสันติศึกษา รุ่นที่ 2 และน.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย นิสิตปริญญาโท สาขาสันติศึกษา รุ่นที่ 3 ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิตบนถนนพหลโยธินขณะเดินทางเข้ามาส่งเอกสารเพื่อขอจบการศึกษา อนึ่ง นายกฤษณะ ถาวรได้สอบป้องกันวิทยานิพนธ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นว่าที่มหาบัณฑิต ซึ่งจะเข้ารับปริญญาบัตรในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ส่วนน.ส.ธันฐภัทร์เดินทางมามหาวิทยาลัย เพื่อเตรียมการไปแสวงบุญที่ประเทศอินเดีย ในระหว่างวันที่ 19-29 มี.ค.นี้
ในโอกาสนี้ โครงการหลักสูตรฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังครอบครัวกฤษณะ และครอบครัวฮ้อแสงชัย ที่ประสบความสูญเสียบุตรหลานอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ พวกเราชาวครอบครัวสันติศึกษาจะระลึกถึงมิตรภาพ และคุณงามความดีที่พวกเราได้เคยสร้างสันติบารมีร่วมกันตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา และขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และบุญราศีสันติบารมีที่นายกฤษณะ และน.ส.ธันฐภัทร์ ได้บำเพ็ญให้เป็นไปตั้งแต่ต้นมาจนถึงวันนี้ ขอได้โปรดเป็นพลวปัจจัยนำดวงวิญญาณไปสู่สุคติในสัมปรายภพตลอดกาลนิรันดร์ฯ
นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ ปิติ เก้าสิบเก้า ได้โพสต์ถึงโต้ง 1 ในผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นคนขับรถปอร์ดเฟียสต้า ว่า "โต้งเป็นนักศึกษาชั้นปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยม.จ.ล.....เมื่อวานนี้เค้าไปม.จ.ล.เพื่อส่งงานแก้ไข และเย็บเล่มวิทยานิพนธ์ที่เค้าเฝ้าเพียรพยายามทำให้จบมาเป็นเวลาหลายเดือน......เค้าเฝ้ารอวันที่จะได้ให้พ่อแม่น้องสาวและญาติสนิททุกๆคนได้มาร่วมแสดงความยินดีกับเค้าในงานวันรับปริญญา......แต่โต้งไม่สามารถอยู่ได้ถึงวันนั้น
ฟอร์ดเฟียสต้าที่เค้าใช้เดินทางไปยังม.จ.ล.ถูกเบนซ์ CLS ที่ขับขี่มาอย่างเร็วและรุนแรงมากมากพุ่งชนจากทางด้านหลัง มีคนมากมายพยายามช่วยเค้า และเพื่อนร่วมคณะที่ติดอยู่ภายในรถที่ไฟเริ่มลุกไหม้ พวกเค้าไม่สามารถช่วยเหลือคนทั้งสองออกมาได้ เพราะผู้บาดเจ็บขาติดกับคอนโซลในรถที่ด้านหลังถูกชนจนพื้นที่นั่งด้านหลังไม่เหลือพื้นที่อะไรเลย
ไฟที่เริ่มลุกไหม้แรงขึ้นเรื่อยๆจนพลเมืองดีต้องถอดใจ ทุกอย่างไหม้หมด รถที่เคยเป็นสีเทาเข้มเหลือเพียงโครงที่ยับย่นจากการถูกชนด้านหลังเป็นซากเหล็กสีขาวโพลนจนนักข่าวหลงคิดว่าเฟียสต้าคันนี้เป็นสีขาวมาแต่เริ่มแรก ทั้งสองคนถูกเผาเหลือไว้เพียงซากที่ไม่สามารถระบุอัตลักษ์ของบุคคลได้ ร่างของร่างที่เคยคนที่รักของคนจำนวนมาก
เวลาประมาณ 11.30 นาฬิกาของวันที่ 13 มีนาคม 2559 เวลาบนโลกนี้ของโต้งหมดลงแล้ว โต้งจากโลกนี้ไปวันที่ 13 วันเดียวกับวันที่ 13 ที่เค้าเกิดมา ในวันที่ 14 มีนาคมนี้เองคือวันเกิดของแม่ของโต้ง ทุกปีจะมีคำอวยพรและของขวัญหยิบยื่นให้กันภายในครอบครัวนี้ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 32 ปี แต่ปีนี้แม่ของเค้าต้องเดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อรับร่างที่เหลืออยู่ของลูกชายคนโต ไม่มีอีกแล้วคำอวยพรจากลูกชายที่เป็นที่รัก กระทั่งพ่อที่เป็นชาวสวนที่แข็งแกร่งมานานหลายสิบปียังไม่สามารถประคองตัวเองให้ยืนขึ้นได้เมื่อเดินทางมาถึงกรุงเทพ
ความสะใจในการขับเร็วขยี้คันเร่งเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ความบ้าคลั่งของคนที่คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ ข้าจะเสียศักศรี ยอมใครไม่ได้ นำมาซึ่งความสูญเสียอันใหญ่หลวงของคนอีกหลายคน ใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ถูกขยี้แหลกราญที่ไม่รู้ว่าจะต้องทนอีกนานแค่ไหนที่จะทำใจยอมรับได้ ลูกที่เฝ้าฟูมฟักเลี้ยงมากับตัวเองเป็นเวลาหลายสิบปีเหลือเพียงซากที่ไม่สามารถที่จะนำมาประกอบพิธีรดน้ำศพได้เลย คนที่เป็นพ่อเป็นแม่คงจะเข้าใจดี ผมไม่รู้จะกล่าวอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว ขอเพียงคำถามเดียว จะยังขับเร็วอีกไหม?
0 comments: